ด้วยความเชื่อนี้ หลายท่านจึงหันไปท่องคำศัทพ์เหล่านั้น ตามหนังสือต่างๆบ้าง ตามเว็บบ้าง และ
อีกทั้งเชื่อว่างานเขียนที่ดีคือการใช้ศัพท์ยาก ให้ได้มากๆ
ท่านที่พึ่งหัดเรียนภาษาพอใช้งานได้ แต่กลับรู้แต่ศัทพ์ง่ายเริ่มรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ว่าเหตุใดระดับภาษาเราถึงไม่ไปถึงไหน ศัทพ์สูงก็ไม่มี ใช้งานก็ไม่เป็น กลายเป็นเสียกำลังใจไปเสียอย่างนั้น
จริงๆแล้ว ความเชื่อเหล่านั้นไม่จริงเลยครับ
ภาษาทุกภาษาคือเครื่องมือในการสื่อสารความคิด และอารมณ์
ลองจินตนาการประโยคนี้ดูนะครับ
มด : แมงเม่า, เธอจะจรมา ณ สยามพารากอน เพลาใด เราจะได้เตรียมอาหารลงในภาชณะไว้ให้
หรือว่า
มด : แมงเม่า, เธอจะมาที่สยามพารากอนกี่โมง เราจะได้เตรียมข้าวกล่องไว้ให้
คำเปลี่ยน อารมณ์และความสนิทก็เปลี่ยน
มด : แมงเม่า, มึงจะมาที่สยามพารากอนกี่โมงวะ กูจะได้เอาข้าวไปให้
เพียงแค่รู้ศัพท์แบบนกแก้วนกขุนทองและไปใส่ในประโยคแบบไม่รู้กาลเทศะ นอกจะจากจะทำให้การสื่อสารเข้าใจแยกแล้ว ยังสร้างอารมณ์ที่ผิดแปลกไปเสียด้วย
การสื่อสารจะมีสัมฤธิ์ได้อย่างไรถ้าเต็มไปด้วยคำที่เยือดเยื้อเข้าใจยาก
แม้แต่เข้าของภาษาเอง ยังไม่สรรเสริญบุคคลที่ใช้แต่ศัทพ์สูงจำนวนมากเกินความจำเป็นเลยครับ
รายละเอียด กดที่นี่ครับ
ถ้าอย่างนั้น
การพูดและการเขียนที่ดีคืองานที่ใช้ภาษาที่กระชับ ชัดเจน ไม่คลุมเครือ และเข้าใจง่าย และเข้าใจกาลเทศะ
อย่างนี้เราจะรู้ได้อย่างไรควรจะใช้สำนวนแบบไหน
อ่านให้มาก ฟังให้มาก
จากแหล่งที่ฝรั่งเขาใช้ เช่น หนังสือ ภาพยนต์ ไม่ใช่จากโรงเรียนหรือหนังสือสอนภาษา
ทำให้ต่อเนื่อง ไม่นานสมองจะเข้าใจอย่างเป็นธรรมชาติได้เองครับ
No comments:
Post a Comment