แกรมม่ายิ่งเรียน ยิ่งโง่

หลายคนคงรีบตอบกันใหญ่ ไม่จริ๊งไม่จริง แกมม่าสำคัญมาก ไม่รู้แกรมม่าจะรู้ภาษาได้อย่างไร เพราะแกรมม่าคือส่วนประกอบสำคัญของภาษา!

ไม่เถียงครับแกรมม่ามีความสำคัญ แต่ประเด็นที่ผมจะพูดคืออย่าไปเรียนมาก อย่าไปเน้นมากต่างหาก

ไม่เคยสงสัยหรือครับว่า ทำไมเรียนแกรมม่าก็กว่า 10 ปีแล้ว เจอฝรั่งดันพูดไม่ออก! อ่านหนังสือยังไม่รู้เรื่อง ฟังหนังฝรั่งเหมือนได้ฟังคลื่นเสียงแต่ไม่รู้ความหมาย

นั่นเพราะว่าการเรียนแกรมม่าในระดับสูงๆ จับผิดแกรมม่าในข้อสอบ หรือเรียนมากจนเกินไป ทำให้ภาษาอังกฤษของเราแย่ลง!

เหตุผลง่ายๆคือ การเรียนแกรมม่าไปฝึกการพัฒนาสมองผิดส่วน!

ภาพจาก : http://faculty.washington.edu/chudler/functional.html

นี่คือสมองของเราครับ สมองส่วนที่คิดวิเคราะห์ การตัดสินใจอยู่ในส่วนที่เรียกว่า Prefrontal Cortex (สีเขียวเข้ม) สมองส่วนนี้ทำงานช้าเพราะต้องใช้ปัจจัยหลายอย่างเพื่อตัดสินใจ

ส่วนความสามารถทางภาษาจะอยู่ที่สมองสีเขียวอ่อน หรือเรียกว่า Broca's area และสีเขียวขี้ม้า Wernicke's area ถ้าสมองนี้ถูกทำลายคนนั้นจะเสียความสามารถทางการใช้ภาษา สมอง 2 ก้อนนี้มีหน้าที่คล้ายกัน ต่างกันที่ว่า Speech Center จะทำงานไวกว่าเรียกคำศัพท์ในชีวิตประจำวันง่ายๆได้เร็ว และส่วน Wernicked's area จะไว้ใช้งานในกรณีเราต้องการใช้คำศัพท์ยากๆ

การเรียนแกรมม่าเพื่อการสอบ และการวิเคราะห์ จะใช้สมองส่วน Prefrontal Cortex ดังนั้น จึงไม่ได้พัฒนาสมองส่วนที่จำเป็นในการใช้ภาษาในชีวิตประจำวันเลย! เสียเวลาทิ้งเปล่าๆ เครียดด้วย 

แล้วจะทำอย่างไรเพื่อฝึกสมอง 2 ส่วนนี้กันหล่ะ ตอบคือ ฟัง และอ่าน ครับ หัดใช้ภาษาทำไปเรื่อยๆเดียวมองมันโตเอง แล้าเราจะใช้งานได้ดีโดยไม่รู้ตัวเลยหล่ะ!

references

http://faculty.washington.edu/chudler/lang.html

http://www.dartmouth.edu/~rswenson/NeuroSci/chapter_11.html