หลายคนอยากจะได้ภาษา ที่พึ่งแรกคือโรงเรียนสอนภาษา ยอมควักกระเป๋ากันไปหลักหมื่น-แสนบาทเพื่อหวังว่าเมื่อจบหลักสูตรแล้ว เราจะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้สมกับบมูลค่าที่จ่ายออกไป แต่จริงหรือไม่นั้น ลองพิจารณาดูก่อนนะครับ
จุดอ่อนของโรงเรียนสอนภาษา
1. เน้นสอนแกรมม่ามากจนเกินไป
หลายโรงเรียนมักจะเน้นแกรมม่าเป็นสำคัญ วิเคราะห์ จับผิด ท่องศัทพ์ แทนที่จะนำเวลาไปฝึกการใช้งานจริง แต่ต้องมาเครียดกับการวิเคราะห์ และท่องจำกฏต่างๆ
2. เรียนเพื่อสอบ
หลายโรงเรียนสอนเทคนิคการสอบมากกว่าการทำไปใช้ในชีวิตจริง การอ่านอบบจับใจความ การพิจารณาตัดตัวเลือกที่ผิดแน่ๆออก ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้งานไม่ได้กับสถานะการณ์การสื่อสารจริงๆ
3. เวลาเรียนไม่เพียงพอต่อการพัฒนาทางภาษา
จะเก่งภาษาได้ก็ต้องฝึกฝน โรงเรียนสอนภาษาเรียนประมาณ 1-3 ชั่วโมงแค่ 3 วันต่อสัปดาห์ ยิ่งคลาสใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งมีเวลาฝึกน้อยเท่านั้น เพราะต้องรอเพื่อนในห้องพูด ต้องรอครูอธิบาย สุดท้ายเหลือเวลาฝึกจริงๆ 15นาที ซึ่งไม่เพียงพอต่อการพัฒนาทางภาษาแน่นอน
4. สอนเร็วช้าไม่เหมาะกับเรา
บางเรื่องเรารู้ไวแต่ก็เรียนต่อไม่ได้ เพราะต้องรอตามหนังสือ บางเรื่องเราต้องการเวลามากขึ้นเพราะยังเข้าใจไม่แจ่มแจ้ง แต่ก็ต้องเริ่มบทใหม่เพราะต้องเรียนตามหลักสูตร ด้วยเหตุนี้ทำให้พื้นฐานไม่แน่ จนเกิดปรากฏการณ์ยิ่งเรียนยิ่งแย่ และรู้สึกว่าตัวเองไม่พัฒนาในที่สุด
5. ค่าใช้จ่ายสูง
ภาษาต้องการความต่อเนื่อง ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ แต่เจอค่าเรียนหลายหมื่นต่อคอส อีกทั้งต้องเรียนหลายคอสเสียด้วย คงจ่ายไม่ได้ตลอดรอดฝ่าง และสุดท้ายก็ต้องหยุดเรียนไปในที่สุด
6. ล้าจากการเดินทาง
โรงเรียนก็ต้องไป งานก็ต้องทำ แล้วยังจะต้องไปโรงเรียนภาษาอีก เวลาเหนื่อยๆสมองก็ทำงานไม่ดีเป็นทุนเดิม ยิ่งทนยิ่งไม่รู้เรื่อง ไม่รู้เรื่องก็เลยท้อ พอท้อก็หยุดเรียน หมดกำลังใจไปกลางคัน
แล้วแบบนี้จะไปทำไมให้เมื่อย อยู่บ้านสบายๆชิลๆ นั่งดูหนังฝรั่ง อ่านนิยาย สบาย สนุก ได้ภาษาไวกว่าอีกเยอะ!
No comments:
Post a Comment